ยิ่งตี ยิ่งดัง ยิ่งใส่ร้าย ความจริงยิ่งปรากฎ!!!



วัดพระธรรมกาย ยิ่งตี ยิ่งดัง ยิ่งใส่ร้ายความจริงยิ่งปรากฎ 
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า วัดพระธรรมกาย โดนข่าวว่าร้าย หนักขนาดนี้ 
แต่ยังมีคนกล้ามางานมาฆบูชา จนกล่าวได้ว่า มากที่สุดในโลก












ใครที่หูเบา เชื่อง่าย ไม่มีใครกล้ามาวัดพระธรรมกายแน่ๆ 
เพราะ ข่าวลบๆที่ไม่เป็นความจริง ถูกสื่อโซเชียล โจมตี อย่างหนัก 
เช่น เอาเงินซื้อสวรรค์ได้ ต้องทำเงินมากๆถึงจะได้บุญมาก 
ก็เป็นการปล่อยข่าวใส่ร้ายวัดพระธรรมกายอย่างโหดเหี้ยม และได้ผลพอสมควร



แอดมินเห็นบ่อยๆ ในเพจแอนตี้ธรรมกาย 
แต่แอดมินฟังคำสอนวัดนี้ทุกวันมาเป็น 10 ปี พูดได้คำเดียว ไม่เคยได้ยิน

วัดพระธรรมกาย สอนแต่ว่า จะไปสวรรค์หรือนรกอยู่ที่บุญกับบาปที่ตัวเองทำเอง 
บาปที่ทำให้ตกนรก คือ การผิดศีล
บุญที่ทำให้ไปสวรรค์ คือ ทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิ 
การทำสมาธิได้บุญมากที่สุด 
เพราะเป็นทางตรงสู่มรรคผลนิพพาน ไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียว 
และใครจะทำบุญเท่าไร ได้บุญมากบุญน้อยขึ้นอยู่กับ ความบริสุทธิ์ของกายวาจาใจเป็นหลัก



เจ้าอาวาสธรรมกายท่านสอนบ่อยๆว่า ทำ 1 บาท ปลื้มพันล้าน
แม้ทำน้อย แต่ถ้าใจปลื้มมากๆ ก็ได้บุญไม่ต่างอะไรกับทำเป็นพันล้าน แม้ทำแค่บาทเดียว
คนทำบุญเป็นพันล้าน ถ้าใจไม่ปลื้ม ก็สู้ทำ 1 บาท แต่ใจปลื้มไม่ได้

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเผยแผ่พระพุทธศาสนา จำเป็นต้องใช้เงิน 
จำเป็นต้องมีการบริจาคทรัพย์ของผู้ใจบุญ ให้เพียงพอต่อการขยายงานพระศาสนา
วัดพระธรรมกายเป็นวัดที่ทำให้ มีชาวต่างประเทศบวชมากที่สุดในโลก
 
ทำให้มีคนถือศีล 5 ได้มากที่สุดในโลก

ทำให้มีคนมานั่งสมาธิ ได้มากที่สุดในโลก


ทำให้มีคนมาสวดมนต์ ได้มากที่สุดในโลก




ทำให้มีคนมาฟังธรรม ได้มากที่สุดในโลก

ทำให้มีคนมาบวช มากที่สุดในโลก



สิ่งเหล่านี้..ล้วนเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เขาเอาเงินไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาจริงๆ
เจ้าอาวาสไม่ได้เก็บเงินไว้ในบัญชีเฉยๆ แต่เอาทุกบาททุกสตางค์ใช้จ่ายเพื่องานพระศาสนา
(ปปง. เพิ่งตรวจสอบบัญชีเจ้าอาวาสไปแล้ว)
และเจ้าอาวาสก็ไม่ได้หนีคดี แต่กำลังสู้กับความไม่ชอบมาพากล ที่ไม่เคยมีใครสู้ได้ เช่น

1 ตอนเกิดเรื่องเจ้าอาวาส เคยเชิญ DSI ให้เข้าไปพิสูจน์อาการป่วย
และแจ้งข้อกล่าวหาท่านในวัดได้เลย นัดไว้วันที่ 25 พค 59 

<<<VDO กดเล่นได้>>>

DSI มีโอกาสที่จะเข้าถึงตัวเจ้าอาวาส เพื่อพิสูจน์ความจริงอย่างสันติ 
แต่ DSI ไม่เลือก แต่กลับไปยกระดับความรุนแรง 
ไปขอออกหมายจับ(ตอนแรก เป็นแค่หมายเรียก) 
พอเป็นหมายจับ ก็ไม่มีใครไว้ใจให้เข้าหาเจ้าอาวาสแล้ว
ตอนหลังก็ยกกองทัพมา 3 กองพัน จะมาบุกวัด ยิ่งกว่าจับโจรใต้


<<<VDO กดเล่นได้>>>

ทำไม? ตอนเชิญดีๆไม่มา แต่ ตอนหลัง กลับยกทัพจะมาบุก ยิ่งกว่าผู้ก่อการร้าย 

วัดนะครับ...มีแต่ชาวพุทธ ใส่ชุดขาว นั่งสมาธิ ไม่มีอาวุธ 
เหมือนกับ อยากให้มีเรื่อง ถึงไม่เลือก ทางออกที่สันติ ที่เจ้าอาวาสเชิญให้เข้าไปดีๆ


2 คนส่วนใหญ่ ไม่เคยรู้ว่า...เจ้าหน้าที่มีอำนาจตามกฎหมาย 
จับพระผู้บริสุทธิ์ สึกและขังคุกก่อนได้ นานหลายปีเลย 
ถ้าศาลใช้เวลากี่ปีในการตัดสิน ถ้าไม่ผิดค่อยปล่อยตัว 

นี่ จึงเป็นเหตุผลสำคัญอย่างยิ่ง ที่เจ้าอาวาสธรรมกาย ไม่ควรเดินทางออกนอกวัดไป DSI 
แต่ ควรให้ DSI มาแจ้งข้อกล่าวหาในวัด ตามคำเชิญแทน 
เจ้าอาวาสจะได้พิสูจน์ตัวเองตามกฎหมายในชั้นศาล 
โดยไม่ถูกกลั่นแกล้ง จับสึกและขังคุก 

ซึ่งไม่นานมานี้..
พึ่งมีผู้ต้องหาสู้คดีของ DSI ถูกทำให้ตับแตกตายเสียชีวิตในห้องขังของ DSI เอง 
และกล้องวงจรปิดเสีย ภาพหายหมดพอดี เล๊ย(เสียงสูง)



<<<VDO กดเล่นได้>>>


แค่เหตุผล 2 ข้อนี้ ก็เห็นถึงความไม่ชอบมาพากลที่ธรรมกายได้รับ
กลับมีคนไปแจ้งความกล่าวหาเจ้าอาวาส ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่า ถูกหรือผิด 
แต่กลับถูกกระทำยิ่งกว่าผู้ก่อการร้าย

หรือ ข่าวลือที่ว่าจะเป็นจริง คือ

เขาไม่ต้องการตัวเจ้าอาวาสธรรมกายหรอก แต่ต้องการล้มล้างธรรมกายให้ได้ 
ตราบใดที่ยังเด็ดแม่ทัพของธรรมกายไม่ได้ ก็ล้มธรรมกายยาก

ธรรมกายมีอะไรที่ เขาต้องการกันแน่นะ
ถ้าให้เขาไปดีๆ ก็ไม่ต้องโดนยัด 300 คดีแบบนี้หรอก
แต่ของที่ ไ ม่ ใ ช่ ของของเขา จะให้กันได้อย่างไร
เพราะธรรมกายของจริงนะ ไม่ใช่ ของเก๊

ระยะทางจะพิสูจน์ม้า กาลเวลาจะพิสูจน์วัดพระธรรมกาย


2 ความคิดเห็น:

  1. มีความสุจมาก. ได้มาร่วมงานบุญที่วัดพระธรรมกาย ความสุขทางใจ เกิดได้เมื่อมาสร้างบุญ

    ตอบลบ
  2. ชอบบทความนี้มากเลยค่ะ "โดนใจสุดๆ"ค่ะ และขอกราบอนุโมทนาบุญกับท่านผู้เขียนบทความนี้ด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น...