ตอน 3 กรณีคดีหลวงพ่อธัมมชโย

วิเคราะห์สถานการณ์พระพุทธศาสนาปัจจุบัน

โดย ศ.ดร.บุญทัน ดอกไธสง


ตอน 3 กรณีคดีหลวงพ่อธัมมชโยตอนที่ 

3.1 การปฏิบัติอย่างเท่าเทียมบนพื้นฐานกฎหมายเดียวกัน


ในเมื่อยามอย่างนี้สภาพบ้านเมืองอยู่ในสภาพเช่นนี้การกล่าวหาการกล่าวร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แน่นอนโลกที่เราอยู่ต้องมีทั้ง 2 ด้าน ด้านที่เห็นด้วยกับด้านที่ไม่เห็นด้วย  แต่เราในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ดี รัฐบาลก็ดี เป็นพระก็ดี เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยก็ดี เราจำเป็นจะต้องมองโลกในลักษณะความเป็นกลางมองแบบอุเบกขาคือมองว่าฝ่ายไหนผิดฝ่ายไหนถูก  ถ้าหากทั้งสองฝ่ายถูกมองว่าจะทำความผิดจะต้องปฏิบัติทั้งสองฝ่ายอย่างเท่าเทียมกันไม่มี 2 มาตรฐาน แต่เท่าที่พวกเราได้เห็นการปฏิบัติอยู่ในปัจจุบันมันมี 2 มาตรฐานอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่พระอีกกลุ่มหนึ่งไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ออกมาเดินถนน ร่วมยึดอำนาจ  พระเหล่านั้นได้กระทำแบบที่ไม่ใช่ภาวะของสงฆ์ท่านถูกกล่าวหาท่านถูกฟ้องร้องแต่รัฐบาลก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันกับท่านเหล่านั้นไม่ได้กล่าวหาแต่ทำไมในเมื่ออีกกลุ่มหนึ่งท่านยังประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับประชาชน ประชาชนเข้าวัดเป็นหมื่นแสนๆสามารถวัดได้แล้วทำไมท่านเหล่านี้มีปัญหาเกิดขึ้น




          ดังกรณีของการที่มีบุคคลนำเงินสหกรณ์คลองจั่นมาถวายวัดเป็นจำนวนประมาน 18 เช็ค หรือมากกว่านั้นมาถวายพระการถวายนั้นพระก็ได้นำเอาเช็คเงินเหล่านั้นผ่านไปยังมูลนิธิ พระเองก็ไม่รู้เรื่องเงินไม่ได้จับเงิน ก็เป็นหน้าที่ของมัคทายกที่ทำหน้าที่ในเรื่องนั้นๆ และก็นำเงินนั้นไปพัฒนาวัดวาอารามเมื่อทราบข่าวว่าเงิน 12,000 ล้าน ของสหกรณ์เกิดมีการหายไปและได้มีข้อมูลว่าเงินนั้นได้ถูกไปทำบุญไปส่งช่วยเหลือองค์กรต่างๆ มากมายมีเงินจำนวนส่วนหนึ่งที่เข้ามาวัดพระธรรมกายนั้นประมาน 3-4 เปอร์เซ็นต์ครึ่งเท่านั้นและเมื่อเงินจำนวนนั้นสหกรณ์ได้อ้างถึง เงินจำนวนหนึ่งไหลเข้ามาทำบุญวัดนี้ฝ่ายลูกศิษย์ลูกหามัคทายกวัดหรือผู้เห็นความสำคัญในการสร้างวัดตลอดมาก็มีความคิดสำนึกร่วมกันว่าต้องนำเงินที่ไม่ถูกต้องอย่างนั้นกลับคืนเจ้าของ ก็ได้นำเงินดังกล่าวนี้ส่งคืนไปหมดแล้วและทางสหกรณ์เองก็ไม่ได้ติดใจ ซ้ำยังขอบคุณการที่ให้ความช่วยเหลือของวัดของมัคทายกของญาติโยมที่ปฏิบัติสมกับเป็นพุทธมามกะทำหน้าที่สมบูรณ์ อย่างนี้แล้วท่านยังมาถูกกล่าวหาอีกว่าเป็นการฟอกเงิน



ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ
    .      กฎหมาย ของรัฐ
    .      พรบ.ของคณะสงฆ์ 2535
    .      พระไตรปิฎก อันเป็นหลักที่สำคัญของพระพุทธศาสนา อะไรจะเกิดขึ้นก็จะต้องยึดหลักของพระไตรปิฎกซึ่งถือว่าเป็นธรรมนูญที่ยิ่งใหญ่ อันเกิดขึ้นจากพระโอสถ์ จากคำสั่งสอนของพระอรหันต์ที่บันทึกมา 2500 ปี และในพระไตรปิฎกนั้น ไม่มีอะไรขัดแย้งต่อหลัก กฎหมาย ของบ้านเมือง เพียงแต่หลักของพระไตรปิฎกนั้น ลึกซึ้งละเอียดเป็นระบบให้ความเป็นธรรม เห็นพระ เห็นบุคคลมาเป็นพุทธมามกะ มาบวชในพระพุทธศาสนานั้น จะต้องปกป้อง คุ้มครอง โดยวิธีการที่ละเอียดที่สุดนั้น  การกระทำนั้น เป็นการกระทำที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ที่จะไปเอาของนั้นๆ มาเป็นของตนเอง หรือนำวัตถุนั้นๆ ว่ามีความมุ่งมั่นตั้งใจหรือไม่อย่างไร เพราะฉะนั้น สิ่งต่อไปนี้ จำเป็น สิ่งที่เกิดขึ้นกับวัด




อย่าลืมนะครับ ในขณะที่ วัดในพระพุทธศาสนานั้น เนื่องจากเป็นของคนส่วนมาก แต่ละวัดก็มีการพัฒนาแตกต่างกัน ไม่ว่าวัดไหนก็ตาม วิธีการสอนก็แตกต่างกันบ้าง ตามวิธีการ  แต่ไม่ได้หมายความว่าหลักการใหญ่นั้นจะขัดแย้งกัน ถ้ามีอะไรที่มันเกิดความขัดแย้งกัน ก็มีการเจรจาพูดจา ปราศรัยกัน และก็ปฏิบัติไปตามภารกิจ ตามมหาเถรสมาคมนั้นๆ ไม่เคยละเลยที่จะปฏิเสธว่า การที่ศึกษาค้นคว้าอย่างเป็นระบบแล้ว บางสิ่งบางอย่างที่มีการสั่งสอนที่ผิดปกติ ไม่สอดคล้องแนวความคิดของคนส่วนมาก ทางวัดก็ไม่ปฏิเสธว่า ตัวเองจะไม่ปฏิบัติตามเถรสมาคม หรือพระธรรมวินัยนั้นๆ แต่ความรู้ ความเห็น ความอ่าน ความคิดที่มี กระบวนการที่แปลกแยกออกไป ก็เป็นอิสระของแต่ละคนที่จะตีความนั้น ก็เป็นสิทธิของแต่ละบุคคล เป็นสิทธิของมนุษยชาติ แต่สิทธินั้นก็ต้องสอดคล้องกับพระไตรปิฎก เช่นกัน


สรุปคือ
     โลกที่เราอยู่ต้องมีทั้ง 2 ด้าน ด้านที่เห็นด้วยกับด้านที่ไม่เห็นด้วย แต่เท่าที่พวกเราได้เห็นการปฏิบัติอยู่ในปัจจุบันมันมี 2 มาตรฐานอยู่ตลอดเวลา  พระเหล่านั้นได้กระทำแบบที่ไม่ใช่ภาวะของสงฆ์ท่านถูกกล่าวหาท่านถูกฟ้องร้องแต่รัฐบาลก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันกับท่านเหล่านั้นไม่ได้กล่าวหาแต่ทำไมในเมื่ออีกกลุ่มหนึ่งท่านยังประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับประชาชน ประชาชนเข้าวัดเป็นหมื่นแสนๆสามารถวัดได้แล้วทำไมท่านเหล่านี้มีปัญหาเกิดขึ้น


คลิปเสียง



อ่านย้อนหลัง 
    ตอน 1 การเผยแผ่พระพุทธศาสนาของวัดพระธรรมกาย
    ตอน 2 ศาสนาพุทธอยู่คู่กับเมืองไทยมาช้านาน


FB พิทักษ์หลวงพ่อด้วยชีวิต https://www.facebook.com/protectpapa
---------------------------------------------------------------------------------

ประวัติ ศ.ดร.บุญทัน ดอกไธสง

ปริญญาเอก ด้าน Leadership & Unman Behavior with specialization in Urban Development, Urban Development, Usiu ประเทศสหรัฐอเมริกา
- ผู้อำนวยโครงการปริญญาเอกคณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ (Doctor of Public Administration (DPA) 
- ประธานคณะกรรมการด้านกิจการพรรคการเมือง และออกเสียงประชามติคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.)

ประวัติเพิ่มเติมของอาจารย์

11 ความคิดเห็น:

  1. ขอบพระคุณท่านศ.ดร.บุญทัน.ที่ขี้แจงให้เห็นความกระจ่างชัดเจนมากๆค่ะ กราบขอบพระคุณค่ะ

    ตอบลบ
  2. อนุโมทนาบุญกับท่าน ศ.ดร.บุญทัน บุญสมชื่อจริงๆ มาได้จังหวะพอดี ได้ชี้แจงได้ชัดเจนมาก พระต้องอาศัยพระวินัยเป็นหลัก สาธุๆๆๆ

    ตอบลบ
  3. อนุโมทนาบุญกับท่าน ศ.ดร.บุญทัน บุญสมชื่อจริงๆ มาได้จังหวะพอดี ได้ชี้แจงได้ชัดเจนมาก พระต้องอาศัยพระวินัยเป็นหลัก สาธุๆๆๆ

    ตอบลบ
  4. กราบขอบพระคุณท่าน ศ.ดร.บุญทัน ที่ออกมาชี้แจงด้วยความเป็นธรรมโดยปราศจากอคติ

    ตอบลบ
  5. ขออนุโมทนาบุญคะ สาธุ

    ตอบลบ
  6. ขอกราบอนุโมทนาบุญกับท่านอาจารย์เป็นอย่างยิ่งค่ะ/ครับ ท่านสามารถวิเคราะห์ได้ชัดเจนตรงไปตรงมาจริงๆค่ะ

    ตอบลบ
  7. ขออนุโมทนากับความคิดเห็นที่พิจารณาเหตุการณ์ไปตามความเป็นจริงของผู้มีปัญญาโดยไม่มีอคติ

    ตอบลบ
  8. ขอบพระคุณท่าน ศ.ดร.บุญทัน เป็นอย่างยิ่งค่ะ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น...