ตอนที่ 3.2 กรณีการปฏิบัติต่อคดีของพระธัมมชโย

วิเคราะห์สถานการณ์พระพุทธศาสนาปัจจุบัน

โดย ศ.ดร.บุญทัน ดอกไธสง


ตอนที่ 3.2 กรณีการปฏิบัติต่อคดีของพระธัมมชโย


เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ผมคิดว่า ในกรณีที่ทาง ดีเอสไอ ท่านขออนุมัติมาเพื่อที่ ควบคุมจับตัวหลวงพ่อธัมมชโยซึ่งท่านป่วยอยู่นั้น ผมคิดว่าเราทำแบบเอิกเกริกจนเกินไป แทนที่จะทำเป็นไปตามระบบ เช่น ได้ยินข่าวว่าส่งโดรนไป โดรนหมายถึงเครื่องบินที่ไร้คนขับ ไปบินรอบวัด ไปสำรวจวัด เพียงเจตนาเพียงแค่นี้ จิตใจชาวพุทธมามะกะ ก็เปรียบประหนึ่งประดุจว่า ไม่ไว้ใจพระพุทธศาสนา 




วัดวาอารามนั้น  ไม่ใช่แหล่งหลบซ่อนของโจร วัดวาอารามนั้นเปิดเผยต่อคนเป็นหมื่นๆ แสนๆ ที่มาทำบุญ เปิดเผยแม้กระทั่ง คนทุกสีเสื้อ คนทุกอาชีพ ที่เข้าไปทำบุญในวัดนั้น หรือเข้าไปจับผิดในวัดนั้น ซึ่งท่านก็เปิดประตูมาตลอด เป็นเวลา 42 ปี หากรวมถึงวัดปากน้ำไปด้วยเป็นเวลาราวๆ 100 กว่าปีมาแล้ว




เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ แล้ว บอกว่าจะมีการส่งรถDSI ส่งคอมมานโด ตั้ง 2,000 นาย จะเข้าไปบุกเข้าไปจับพระ ดูเหมือนว่าพระเป็นแหล่งซ่อนซุก ยุทธโธปกรณ์ ยังถูกกล่าวหาจากคนที่นุ่งผ้าเหลืองบางท่าน น่าจะมีจิตใจเป็นธรรมมองดูความเป็นจริงตามความเป็นจริง ยังมีการกล่าวหาว่ามีคนขนอาวุธปืน ไปยังวัด เข้าไปยังวัด เข้าไปซ่องสุม เพื่อที่จะต่อต้านอำนาจรัฐ มันเป็นไม่ได้  รัฐบาลท่านก็ไม่ใช่ว่าเป็นรัฐบาลที่ไม่ได้ว่าไม่รู้เรื่อง ผมเชื่อมั่นว่า ฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ทั้งสองท่าน พลเอกประวิตร กับ ท่าน ศ.ดร.วิษณุ ท่านก็เข้าใจว่า วัดวาอารามเป็นอย่างไร เพราะท่านหล่านี้ก็คุ้นเคยกับวัดทุกวัดอยู่แล้ว ท่านก็เตือนๆว่า การทำอะไรที่บุ่มบ่ามไร้ระบบ ไร้หลักการ ไร้มารยาทอันนี้ท่านไม่ได้พูดผมพูดเอง ที่ควรจะเป็นนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควร





เราต้องคำนึงถึงศรัทธาประชาชน ในยามชาติบ้านเมืองกำลังลำบาก กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงแก้ไข ตามนโยบายของรัฐ ชาติบ้านเมืองต้องการความสงบ ในเมื่อท่านต้องการความสงบสุข ความปรองดอง  ท่านไปสงสัยหลักใหญ่ หลักที่เป็นเสาค้ำ(Under Pin of nation ซึ่งมีชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เรามีความจำเป็นที่จะต้อง ดูอย่างระมัดระวัง ถะนุถนอม เราอย่าไปเอา อคติ  ความไม่ชอบส่วนตัว หรือได้ยินได้ฟังมาว่าอย่างนู้นอย่างนี้ แล้วเราไปปฏิบัติต่อฝ่ายที่ตนเองไม่ชอบ ดังที่กระทำอยู่ในปัจจุบันนี้




พลังโต้ พลังต้าน หรือพลังขอความเป็นธรรมนั้น นั่นคือ พลังโต้หรือพลังต้าน ไม่ใช่โต้และต้านแบบหัวรั้นหัวดื้อ แบบกล่าวหา แบบกล่าวร้าย แบบว่าที่ชวนกันมาที่จะชวนกันมาทำร้ายรัฐบาลของพวกเรากันเอง ไม่มีคำพูดของ ออกมาจากชาววัด เพียงแต่ขอความเป็นธรรม ขอความถูกต้อง ขอเวลาและขอโอกาสเท่านั้น ถ้าท่านไม่สามารถให้สิ่งเหล่านี้กับประชาชนได้ ประชาชนก็ไม่น่าจะยอมเช่นเดียวกัน เพราะทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ แม้ว่าจะอยู่ภายใต้กฎหมาย





แม้ท่านจะเด็ดขาด อย่างไรก็ตามสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลนั้นยังเป็นอิสระ ยังมีอยู่ ยังมีสิทธิที่จะปกป้องคุ้มครอง ตนเอง และกลุ่มของตน ด้วยความชอบธรรมของตนเองอยู่ตลอดเวลา เมื่อเป็นเช่นนั้น เรามีสิทธิที่จะดูแลตนเอง ในการปกป้องตนเอง เพื่อรอความเป็นธรรมจากภาครัฐ เพื่อรอความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะ ดีเอสไอ



สรุป คือ

       ผมคิดว่า ทาง DSI ทำแบบเอิกเกริกจนเกินไป แทนที่จะทำเป็นไปตามระบบ 
       เปรียบประหนึ่งประดุจว่า ไม่ไว้ใจพระพุทธศาสนา วัดวาอารามนั้น  ไม่ใช่แหล่งหลบซ่อนของโจร วัดวาอารามนั้นเปิดเผยต่อคนเป็นหมื่นๆ แสนๆ ที่มาทำบุญ


 FB พิทักษ์หลวงพ่อด้วยชีวิต https://www.facebook.com/protectpapa
---------------------------------------------------------------------------------

ประวัติ ศ.ดร.บุญทัน ดอกไธสง

ปริญญาเอก ด้าน Leadership & Unman Behavior with specialization in Urban Development, Urban Development, Usiu ประเทศสหรัฐอเมริกา
- ผู้อำนวยโครงการปริญญาเอกคณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ (Doctor of Public Administration (DPA) 
- ประธานคณะกรรมการด้านกิจการพรรคการเมือง และออกเสียงประชามติคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.)


ประวัติเพิ่มเติมของอาจารย์

http://strikerforpapa.blogspot.com/2016/06/blog-post_8.html

5 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น...